รมว.ท่องเที่ยวรับ โฮมสเตย์เข้าเกณฑ์ลดหย่อนภาษี ยังน้อย แค่ 87 แห่งใน 55 จังหวัด

นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่าหลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติมาตรการลดหย่อนภาษีจากค่าใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยว ตามข้อกำหนดการใช้โรงแรมและบริษัทนำเที่ยว ยังต้องเป็นธุรกิจที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายและมีใบกำกับภาษีมาประกอบ ขณะที่การใช้บริการโฮมสเตย์จะอนุโลมให้ใช้ใบเสร็จ เพื่อเป้าหมายกระจายรายได้สู่ชุมชน แต่ทั้งนี้ยังครอบคลุมเฉพาะโฮมสเตย์ ที่อยู่ภายใต้การรับรองของกรมการ ท่องเที่ยวและอยู่ภายในพื้นที่ 55 จังหวัดที่ ครม.ประกาศเท่านั้น ดังนั้นจึงมีแนวคิดขยายกลุ่มที่เข้าร่วมการลดหย่อน เป็นที่พักขนาดเล็ก 4 ห้อง ความจุนักท่องเที่ยวไม่เกิน 20 คนเข้าร่วมด้วย ซึ่งจะต้องนำเสนอไปชั้นกฤษฎีกาต่อไป เช่นเดียวกับการประกาศเพิ่มเติมพื้นที่รองในเมืองหลัก
ซึ่งไม่อยู่ในกลุ่มที่ ครม.อนุมัติรอบแรก จะต้องเสนอเพิ่มในวาระต่อไป ซึ่งอาจมีผลย้อนหลังภายในกรอบระยะเวลาที่อนุมัติตั้งแต่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค.2561
นายอนันต์ วงศ์เบญจรัตน์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวว่าปัจจุบันโฮมสเตย์ที่กรมฯ ให้มาตรฐานรับรองมีอยู่ราว 200 แห่งทั่วประเทศ แต่หากอยู่ในกลุ่ม 55 จังหวัดที่เข้าเกณฑ์ได้รับลดหย่อนภาษีนั้น จะเหลือจำนวน 87 แห่งเท่านั้น ซึ่งยอมรับว่าน้อยมากและอาจไม่เพียงพอในการช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายลงท้องถิ่น ดังนั้นจึงควรขยายกลุ่มที่รองรับได้ต่อไป ขณะที่ธุรกิจนำเที่ยวที่จดทะเบียนกับกรมฯ ปัจจุบัน มี 13,244 ราย
ด้านนายภูริวัจน์ ลิ้มถาวรรัตน์ อุปนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) กล่าวว่าหลังจากรับฟังรายละเอียดการลดหย่อนภาษีใน 55 จังหวัดแล้ว ต่อไปบริษัทนำเที่ยวในประเทศต้องทำการบ้านต่อเรื่องการออกแบบแพ็คเกจไปยังพื้นที่ดังกล่าว รวมถึงการโปรโมตให้ลูกค้าบริษัททัวร์รับทราบ ซึ่งโดยหลักการที่ให้สิทธิ์แก่บริษัทห้างร้านสามารถนำค่าใช้จ่าย 100% ไปหักลดหย่อนภาษีได้ เชื่อว่าจะมีผลกระตุ้น ตลาดจัดประชุมสัมมนาและช่วยเหลือธุรกิจนำเที่ยวได้ส่วนหนึ่ง
ปัจจุบันถือเป็นลูกค้ากลุ่มหลักกว่า 80-90% เนื่องจากนักท่องเที่ยวทั่วไปหันไป เดินทางด้วยตัวเองเกือบทั้งหมดแล้ว และหากกลุ่มบริษัทเดินทางมากขึ้น ก็จะเป็นผลดี ต่อเรื่องการกระจายรายได้สู่รากหญ้าอย่างที่ รัฐบาลต้องการ อย่างไรก็ตามการส่งเสริมให้มาตรการได้ผล ประเมินว่ายังต้องทำการตลาดและประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวเมืองรองอีกมาก เพราะกลุ่มลูกค้าอาจจะทราบมาตรการลดหย่อนภาษี แต่ยังไม่รู้ว่ามีแหล่งท่องเที่ยว หรือสินค้าใดน่าสนใจพอจะเดินทางเข้าไปและแต่ละพื้นที่มีความพร้อมรองรับมากน้อย อย่างไร
โดยเฉพาะรูปแบบการจัดประชุมสัมมนา จะต้องมีองค์ประกอบ เช่น ห้องพัก ที่พอเพียง,มีห้องประชุมรับกรุ๊ปขนาดกลางถึงใหญ่,มีกิจกรรมซีเอสอาร์ที่ให้บริษัทต่างๆ เลือกได้ ซึ่งแต่ละจังหวัดเมืองรอง ที่ประกาศออกมา ยังมีความพร้อมไม่เท่ากัน
ดังนั้น เบื้องต้นบริษัทนำเที่ยวอาจจะศึกษาความพร้อมของแต่ละแหล่ง แล้วแบ่งออกเป็น 3 เฟสในการนำเสนอ โดยเลือกกลุ่มที่มีความพร้อมโปรโมต มีสิ่งอำนวยความสะดวกและสาธารณูปโภครองรับได้ก่อน ระหว่างนั้นทยอยโปรโมตเมืองอื่นๆ และ เข้าไปสำรวจความพร้อม และนำนักท่องเที่ยว เข้าไปเป็นเฟสที่ 2 และ 3 ตามลำดับ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาด้านซัพพลาย

Related Posts

Scroll to Top