เอเชียขึ้นเบอร์ 2 โลก แหล่งสตาร์ทอัพยูนิคอร์น

นิกเคอิ เอเชียน รีวิว รายงาน อ้างข้อมูลจากซีบี อินไซท์ บริษัทวิจัยสหรัฐว่า นับถึงวันที่ 1 ธ.ค. ที่ผ่านมา เอเชียมีสตาร์ทอัพ ที่ไม่ได้เข้าจดทะเบียน ในตลาด และมีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ขึ้นไป หรือที่เรียกกันว่า “ยูนิคอร์น” อยู่ราว 75 ราย คิดเป็นสัดส่วน 41% ของยูนิคอร์นทั่วโลก ที่มีอยู่ 220 ราย ใน 22 ประเทศทั่วโลก รวมถึง 3 รายในทวีปแอฟริกา รวม มูลค่าทั้งสิ้น 763,000 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นภูมิภาคที่มียูนิคอร์นมากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐที่ คิดเป็นสัดส่วน 50% และอันดับ 3 เป็นของยุโรปที่ 8%ในระดับโลกนั้น อูเบอร์ เทคโนโลยีส์ ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นเรียก รถรับส่ง ถือเป็นยูนิคอร์นที่มีขนาดใหญ่สุด มูลค่า 68,000 ล้านดอลลาร์ขณะที่จีนเป็นประเทศที่มียูนิคอร์นมากสุดในเอเชียจำนวน 59 ราย โดย “ตี้ตี่ ชูซิง เทคโนโลยี” ผู้ให้บริการ แอพพลิเคชั่นเรียกรถรับส่งยอดนิยม เป็นยูนิคอร์นที่มีมูลค่าสูงสุด มากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ส่วนสตาร์ทอัพดาวเด่นรายอื่นๆ ของจีน รวมถึง “เสี่ยวหมี่” ผู้ผลิต สมาร์ทโฟน “ดีเจไอ” บริษัทผลิตโดรน “ปักกิ่ง โมไบค์ เทคโนโลยี” ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นเช่าจักรยานและถู่เจียผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับลงประกาศ ค้นหา และจองที่พักชุมชน แบบเดียวกับแอร์บีแอนด์บีอันดับ 2 ตกเป็นของอินเดียที่ 10 ราย โดย “ฟลิปคาร์ท” และ “สแนปดีล” 2 ผู้ค้าปลีกอีคอมเมิร์ซ เป็นสตาร์ทอัพที่มีมูลค่ามากสุดแม้ฟลิปคาร์ท จะติดอยู่ในอันดับ ที่ 11 ของยูนิคอร์นโลก ด้วยมูลค่า 11,600 ล้านดอลลาร์ แต่ในอินเดียแล้วถือเป็นผู้ค้าปลีกออนไลน์รายใหญ่สุด ของประเทศ แซงหน้ายักษ์ใหญ่จาก สหรัฐ อย่างอเมซอน ดอท คอม ที่ติด อันดับ 2 ของผู้ค้าปลีกออนไลน์ในประเทศนี้เมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ฟลิปคาร์ท ยังเปิดแบรนด์”มาร์คิว” เป็นของตัวเอง สำหรับสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า ในบ้าน ทั้งยังอยู่ระหว่างการหารือ เพื่อเข้าซื้อหุ้นในบริษัทขายตั๋ว ออนไลน์ด้วยยูนิคอร์นรายอื่นๆ ของอินเดีย รวมถึง “วัน97 คอมมูนิเคชันส์” ผู้ให้บริการ “เพย์ทีเอ็ม” ชำระเงินออนไลน์ และ “โอลา” สตาร์ทอัพบริการเรียก รถรับส่ง ที่น่าสนใจสำหรับอุตสาหกรรม สตาร์ทอัพในอินเดีย คือการที่ “ซอฟท์แบงก์ กรุ๊ป” ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของญี่ปุ่น เป็นผู้ถือหุ้น ในยูนิคอร์น 4 รายใหญ่สุดของอินเดีย เน้นให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่มีต่อสตาร์ทอัพอินเดียทางด้านภูมิภาคเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ ที่มีประชากรอยู่มากกว่า 600 ล้านดอลลาร์ ใน 10 ประเทศ มียูนิคอร์นอยู่ 3 รายด้วยกัน โดย 2 ราย ในจำนวนนี้ เป็นบริษัทให้บริการเรียก รถรับส่ง คือ “แกร็บ” ซึ่งจดทะเบียน ในสิงคโปร์และมีฐานดำเนินงานในมาเลเซีย และ “โกเจ็ก”ของอินโดนีเซีย ส่วนอีกรายหนึ่งคือ “ทราเวโลกา โฮลดิ้ง” สตาร์ทอัพจากอินโดนีเซียเช่นกัน ทำธุรกิจ ให้บริการจองการเดินทางท่องเที่ยวก่อนหน้านี้ เอเชียตะวันออก เฉียงใต้เคยมียูนิคอร์น 4 รายด้วยกัน แต่ “ซี” ซึ่งมีชื่อเดิมว่า การีนา บริษัทด้านการลงทุนเทคโนโลยี เพิ่งเข้า จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก เมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมาสิ่งที่ทำให้แกร็บ และโกเจ็ก มี เอกลักษณ์แตกต่างจากผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นเรียกรถรับส่งรายอื่นๆ คือ บริการรถจักรยานยนต์ และ บริการอื่นๆ ตามแต่ที่ผู้บริโภคท้องถิ่นต้องการ ทั้ง 2 บริษัทยังมีบริการส่งอาหาร และสินค้าอื่นๆ ซึ่งเชฟอินโดนีเซีย ที่ทำงานกับผู้ค้าปลีกออนไลน์รายหนึ่ง ระบุว่าเป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซอย่างไรก็ดี ประเทศที่ขึ้นชื่อว่า เป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีของเอเชีย อย่าง ญี่ปุ่น กลับมีสตาร์ทอัพที่ติดอยู่ในผลสำรวจยูนิคอร์นของ ซีบี อินไซท์ เพียงรายเดียวเท่านั้น คือ “เมอร์คาริ” ผู้ให้บริการตลาดนัด เสมือนจริง แต่ผลสำรวจ “เน็กซ์ ยูนิคอร์น” ที่นิกเคอิ ร่วมกับ สมาคม นักลงทุนเงินทุนญี่ปุ่น จัดทำขึ้นนั้น ยังระบุถึง “พรีเฟอร์ด เน็ตเวิร์คส์” บริษัทด้านปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ในกรุงโตเกียว ที่มีมูลค่ามากกว่า 2,050 ล้านดอลลาร์

Related Posts

Scroll to Top