นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เรียกประชุมด่วนระหว่างกระทรวงเกษตร กระทรวงพาณิชย์ และ ธกส. เพื่อปรับแนวทางแก้ปัญหาภาคเกษตรใหม่ ยึดศาสตร์พระราชาเป็นตัวตั้ง และตอบโจทย์การยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรอย่างเป็นรูปธรรม โดยนายสมคิดระบุว่า หลักการคือ ในช่วงที่ว่างจากการเก็บเกี่ยว รอผลผลิตรอบใหม่ เกษตรกรจะต้องมีรายได้ ซึ่งกระทรวงเกษตรจะเข้าไปดูรายละเอียดเกี่ยวกับรายชื่อเกษตรกรที่ไปขึ้นทะเบียนคนจน เพื่อแก้ปัญหาเป็นรายครัวเรือน ขณะที่กระทรวงพาณิชย์จะต้องเข้ามาช่วยเรื่องการตลาด ไม่ใช่ปลูกมาแล้วไม่รู้จะขายใคร ซึ่งต้องดึงภาคเอกชน โดยเฉพาะภาคส่งออกเข้าร่วมสู้กับปัญหาผลผลิตราคาตกต่ำด้วย ที่ผ่านมาปัญหาภาคเกษตรที่สำคัญคือการบริหารจัดการข้อมูล ซึ่งไม่มีเจ้าภาพที่ชัดเจน จึงได้ให้นโยบายไปว่าพืชเศรษฐกิจหลัก เช่น ข้าว ยางพารา ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง และผลไม้จะต้องมีเจ้าภาพที่ระบุตัวบุคคลได้ โดยดึงผู้เกี่ยวข้องในแต่ละส่วนมาบูรณาการทำงานร่วมกันในรูปคณะกรรมการ สร้างระบบฐานข้อมูลกลาง รวมถึงระบบเตือนภัยล่วงหน้า หากต้องจ้างหน่วยงานภายนอกให้เข้ามาช่วยเรื่องข้อมูลก็ทำได้เลย ไม่ใช่ส่วนราชการต่างคนต่างทำ ทำให้ตัวเลขไม่ตรงกัน ส่งผลให้การบริหารผิดพลาด นายสมคิดยังย้ำด้วยว่า รัฐบาลนี้มีเวลาเหลืออีกเพียงแค่ปีเดียว และนายกรัฐมนตรีประกาศให้ทุ่มสรรพกำลังไปที่การฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก ดังนั้นภารกิจที่มอบหมายไปจะต้องถูกขับเคลื่อนโดยเร็วเพื่อให้เกิดผลในทางปฎิบัติอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมยืนยันว่าชีวิตเกษตรกรจะดีขึ้นอย่างแน่นอน
ด้านนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเกี่ยวกับราคายางที่ยังคงตกต่ำว่า มี 3 แนวทาง ได้แก่ 1)กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะเพิ่มสัดส่วนการใช้บางจากปกติ 3 หมื่นตัน เป็น 5-8 หมื่นตัน 2) ขอความร่วมมือจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ให้เอกชนเข้ามาช่วยรับซื้อยาง ปริมาณ 1 แสนตัน และ 3) การยางแห่งประเทศไทยเข้าซื้อยางในตลาด โดยมีเป้าหมายดึงราคาเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าราคาต้นทุนของเกษตรกร ซึ่งจะเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมภายใน 3 เดือน ส่วนอาชีพเสริมของเกษตรกรอาจจัดให้มีการอบรมเพิ่มคุณภาพผลผลิตและเดินตามรอยเศรษฐกิจพอเพียง พื้นที่ใดเหมาะกับปศุสัตว์ก็จะต้องรวมกลุ่มกันเลี้ยงเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เช่น การเลี้ยงวัวเนื้อ ก็จะไปสอดคล้องกับโครงการเกษตรแปลงใหญ่ เป็นต้น
ด้านนายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ กล่าวถึงแนวทางแก้ปัญหาราคาข้าวว่า จะต้องเจรจาลดการปลูกข้าวในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมหรือให้ผลผลิตต่ำ ประมาณ 2 ล้านไร่ เพื่อควบคุมให้ปริมาณผลผลิตสอดคล้องกับปริมาณส่งออกและบริโภคภายในประเทศ