เปิดฉากแล้วสำหรับงาน DigiTech ASEAN Thailand & AI Connect 2024 ที่จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 20-22 พฤศจิกายน 2567 ณ อาคาร 6 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ด้วยการรวบรวมผู้ให้บริการ Business Solution และ AI ชั้นนำกว่า 350 แบรนด์จาก 7 ประเทศ พร้อมมีเวทีเจรจาการค้าสำหรับสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ และสัมมนาจากกูรูด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลมาร่วมอัปเดตเทรนด์เทคโนโลยีที่ห้ามหลาดในปี 2025 โดยคาดว่า จะมีผู้ร่วมงานทั้งในและต่างประเทศกว่า 6,000 ราย สะท้อนศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีดิจิทัลแห่งอาเซียน และตอกย้ำ DigiTech ASEAN Thailand & AI Connect 2024 คืองานที่
น่าจับตามองที่สุดแห่งปี
รายงาน e-Conomy SEA 2024 ที่จัดทำโดย 3 บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Google, Bain และ Temasek ได้ระบุว่า ในปี 2567 เศรษฐกิจดิจิทัลของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีมูลค่า 2.63 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตจากปีที่ผ่านมา 15% ขณะที่ไทยมีมูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลอยู่ประมาณ 5.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ มีการเติบโตเพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับปีก่อน เมื่อรวมกับการประกาศเข้ามาลงทุนด้านเทคโนโลยี และ Data Center ของ Tech Company ระดับโลก อาทิ Google Microsoft และ NVIDIA ฯลฯ ยิ่งย้ำให้เห็นถึงศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางธุรกิจดิจิทัลและเทคโนโลยีของประเทศไทยมากขึ้น
สำหรับ DigiTech ASEAN Thailand & AI Connect 2024 จะเป็นงานที่เน้นนำเสนอนวัตกรรม การสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ การแลกเปลี่ยนความรู้และเทรนด์ ตลอดจนโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล โดยภายในงานจะรวบรวมผู้ให้บริการเทคโนโลยีดิจิทัลชั้นนำกว่า 350 แบรนด์จาก 7 ประเทศทั่วโลกมานำเสนอเทคโนโลยีล่าสุดใน 8 กลุ่มหลัก ได้แก่ ซอฟต์แวร์ธุรกิจ ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ อีคอมเมิร์ซและการตลาดดิจิทัล ข้อมูลและคลาวด์ โซลูชันอัจฉริยะและไอโอที เทคโนโลยี 5G และเครือข่าย Web 3.0 และ AI พร้อมกับมีเวทีสัมมนาจากกูรูด้านเทคโนโลยีและ AI เพื่อเป็นพื้นที่สำหรับแลกเปลี่ยนความรู้ที่ล้วนแล้วแต่เป็นหัวข้อที่น่าสนใจ นอกจากนี้ยังมีเวทีเจรจาการค้าและสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรสำหรับส่งเสริมการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ
พีรยาพัณณ์ พงษ์สนาม ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า งาน DigiTech ASEAN Thailand & AI Connect 2024 ถือเป็นเวทีแสดงถึงศักยภาพของประเทศไทยในด้านนวัตกรรมดิจิทัลและ AI ซึ่งไม่เพียงจะส่งเสริมอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูงของประเทศไทย แต่ยังสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ และสนับสนุนเป้าหมายของประเทศไทยในการก้าวสู่เศรษฐกิจที่ยั่งยืนและขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม คาดว่างานนี้จะมีผู้เข้าร่วมงานทั้งจากในประเทศและต่างประเทศกว่า 6,000 คน
ดร.กัลยา อุดมวิทิต รองผู้อำนวยการ (สายงานบริหาร) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า การปรับตัวเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล และ AI ของประเทศไทยถือเป็นอีกภารกิจสำคัญของ อว. ซึ่งจะขับเคลื่อนผ่านนโยบาย ‘อว. for AI’ มุ่งเน้นการสร้างกำลังคนให้มีความรู้ความสามารถด้าน AI ที่จะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ ภายใต้เป้าหมายในการสร้างบัณฑิต 90% ให้มีความรู้พื้นฐานด้าน AI หลังสำเร็จการศึกษา และตั้งเป้าผลิตบุคลากรด้าน AI จำนวน 30,000 คนภายใน 3 ปี โดยมีความร่วมมือระหว่างสถาบันอุดมศึกษากับภาคเอกชนในการจัดฝึกอบรมและคอร์สออนไลน์ AI เพื่อเพิ่มทักษะให้กับบุคลากร เพื่อจะสนับสนุนการพัฒนาประเทศไทยให้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้าน AI ในภูมิภาคอาเซียน
ธีรวุฒิ ธงภักดิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่การเป็นศูนย์กลางข้อมูลของภูมิภาค กระทรวงดีอีได้เตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่ง และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทุกภาคส่วนด้วยการประกาศใช้นโยบาย Cloud First Policy เพื่อตอบสนองแนวโน้มการใช้งานด้านข้อมูล และการพัฒนานวัตกรรมของภาครัฐที่มีความต้องการเพิ่มมากขึ้น เป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุนด้านดิจิทัล และ Data Center เพื่อนำไปสู่การพัฒนานวัตกรรม AI นอกจากนี้ กระทรวงดีอีได้ขับเคลื่อนการพัฒนา AI ในหลายมิติ เช่น ประกาศใช้แนวปฏิบัติจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ (Thailand AI Ethics Guideline) เพื่อเป็นกรอบแนวทางสำหรับผู้วิจัย ผู้ออกแบบ ผู้พัฒนา และผู้ให้บริการ AI ใช้ในการเลือกใช้ AI แบบมีจริยธรรม และร่วมกับ อว. ในการจัดทำและขับเคลื่อนการประกาศใช้แผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (พ.ศ. 2565-2570) รวมถึง การพัฒนากำลังคนด้าน AI การวางโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการพัฒนา AI และการส่งเสริมนวัตกรรมและการประยุกต์ใช้ AI เพื่อนำประเทศไทยไปสู่การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของภูมิภาคต่อไป
งาน DigiTech ASEAN Thailand & AI Connect 2024 จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 20-22 พฤศจิกายน 2567 ณ อาคาร 6 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี