กระทรวงอุตสาหกรรม โดย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เร่งบรรเทาผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาน้ำมัน และราคาพลังงาน ด้วยการออกมาตรการเร่งด่วนทางด้านการเงิน และการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาน้ำมัน และราคาพลังงาน
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากการหารือกับสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยในเรื่องการขอปรับขึ้นราคาค่าขนส่งตามราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นไม่เกินร้อยละ 5 นั้น พบว่ายังไม่ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างมีนัยสําคัญในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้านี้ อย่างไรก็ดีเพื่อเป็นการช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดกลางขนาดย่อม (SMEs) ทั้งในภาคการผลิตและภาคบริการที่อาจได้รับ ผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) มีโครงการและมาตรการพิเศษสําหรับ SMEs ทั้ง 2 กลุ่ม ดังนี้
1. SMEs ภาคการผลิต ดําเนินการภายใต้โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วยเทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุนด้านพลังงานสําหรับ SMEs จํานวน 2,000 ราย โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และกรมโรงงานอุตสาหกรรม จะเข้าไปช่วยสนับสนุนการปรับปรุงกระบวนการผลิต รวมถึงการใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ในการตรวจวัดประสิทธิภาพการใช้พลังงานเพื่อลดต้นทุน ซึ่งจะส่งผลให้ SMEs สามารถลดต้นทุนได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 หรือ ประหยัดต้นทุนไม่น้อยกว่า 340 ล้านบาท
2. SMEs ภาคบริการ (ด้านขนส่งและโลจิสติกส์) กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จะดําเนินการภายใต้มาตรการขับเคลื่อน SMEs สู่ 4.0 โดยเชื่อมโยงกระบวนการขนส่งและโลจิสติกส์ หรือการกระจายสินค้าของ SMEs กับบริษัทที่เป็น Big Brother ได้แก่ SCG Logistics ผ่านโครงการ Fleet Card ของ SCG Logistics ซึ่งจะทําให้ SMEs สามารถลดต้นทุนราคาน้ำมันลงไม่น้อยกว่า 20-40 สตางคต่อลิตร นอกจากนี้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมจะร่วมมือกับโรงเรียนทักษะพิพัฒน์ ในเครือ SCG Logistics พัฒนาประสิทธิภาพบุคลากรด้านขนส่งและโลจสิติกส์โดยกําหนดหารือในรายละเอียดที่เกี่ยวข้องในต้นสัปดาห์หน้า พร้อมกันนี้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ยังเร่งดําเนินการสนับสนุนโครงการลดการขนส่งเที่ยวเปล่า (Backhauling) โดยจะร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก ในการสนับสนุนให้ SME ทั้งภาคการผลิต และภาคบริการ (ผู้ประกอบการขนส่งสินค้า / Logistics Service Provider) ใช้แพลทฟอร์มศูนย์รวมข้อมูลการขนส่งด้วยรถบรรทุก (Truck Data Service Center : TDSC) เพื่อลดต้นทุนการขนส่งและโลจิสติกส์ในภาพรวมต่อไป ทั้งนี้ SMEs ที่ได้รับผลกระทบสามารถติดต่อขอรับการสนับสนุนและช่วยเหลือผ่านศูนย์สนับสนุนและช่วยเหลือเอสเอ็มอี (SME Support & Rescue Center : SSRC) ซึ่งมีศูนย์บริการกระจายอยู่กว่า 270 แห่งทั่วประเทศ หรือ ขอรับความช่วยเหลือผ่านช่องทาง Online ได้ที่ www.smessrc.com หรือ สายด่วน 1358