นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทย ในเดือนพฤศจิกายน 2560 อยู่ที่ระดับ 87 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคมที่ 85.9 เนื่องจากยอดคำสั่งซื้อและยอดขายสินค้าในประเทศปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการช็อปช่วยชาติเมื่อวันที่ 11 พ.ย.- 3 ธ.ค.60 และการใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย ที่ทำให้การบริโภคและการใช้จ่ายปรับตัวดีขึ้น ขณะเดียวกันภาคอุตสาหกรรมยังเพิ่มอัตราการผลิตเพื่อจำหน่ายสินค้าในชาวงเทศกาลปีใหม่ด้วย
อย่างไรก็ตามจากการคาดการณ์ความเชื่อมั่นในอีก 3 เดือนข้างหน้า จะอยู่ที่ระดับ 102 แม้จะอยู่ในระดับที่เกิน 100 แต่ก็ปรับตัวลดลงจากเดือนหน้าตุลาคมที่อยู่ที่ 103.3 เพราะผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมยังมีความเป็นห่วงระดับราคาสินค้าเกษตรที่จะยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำต่อไป ประกอบกับราคาน้ำมันมีแนวโน้มสูงขึ้น รวมถึงความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่มีผลกระทบต่อภาคการส่งออก และนโยบายการค้าระหว่างประเทศของประเทศคู่ค้าที่ยังไม่ชัดเจน
สำหรับทิศทางเศรษฐกิจอุตสาหกรรมในปีหน้า จากการสำรวจของนิด้าโพลล์ พบว่า ผู้ประกอบการภาคอุตสาหรรมส่วนใหญ่มองว่าเศรษฐกิจในปีหน้าจะขยายตัวได้ไม่เกิน 5% โดยมีปัจจัยบวกมาจากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น ทำให้การค้าโลกปรับตัวดีขึ้นตามไปด้วย ขณะที่การใช้จ่ายและการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมทั้งการท่องเที่ยวที่จะขยายตัวดีกว่าปีนี้ และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐมีประสิทธิภาพ รวมถึงการส่งออกที่จะฟื้นตัวขึ้น
อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมยังเป็นห่วงต่อปัจจัยเสี่ยงที่จะกระทบเศรษฐกิจและการประกอบการ อาทิ ปัญหาการเมืองระหว่างประเทศ ที่อาจทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไม่เป็นไปตามเป้าหมาย การขาดแคลนแรงงาน และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ดังนั้นจึงต้องการให้รัฐบาลส่งเสริมการส่งออกให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการเน้นขยายตลาดการส่งออกและลดอุปสรรคปัญหาที่ไม่ใช่มาตรการทางภาษีให้กับผู้ส่งออกให้มากที่สุด รวมถึงกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศให้ดีขึ้นด้วย