น.ส.ศิริภา จึงสวัสดิ์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท อูเบอร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทยินดีร่วมมือปฏิบัติตามแนวทางศึกษาของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ ในการเข้าสู่การกำกับดูแล โดยหวังให้ภาครัฐมีการออกกฎหมายที่สอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เพื่อให้เทคโนโลยีและนวัตกรรมสามารถใช้ได้กับการเดินทางให้เกิดขึ้นจริงในไทย โดยเฉพาะการลดความยุ่งยากของกฎระเบียบ การลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการ ลดการควบคุมด้านราคา เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เสรีมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อผู้บริโภคและนักท่องเที่ยว
“กฎระเบียบเป็นทั้งการสนับสนุนและอุปสรรคสำหรับเทคโนโลยี เพราะหากมีนวัตกรรมแต่กฎหมายไม่รองรับก็ไม่สามารถใช้ประโยชน์ให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง” น.ส.ศิริภา กล่าว
อย่างไรก็ตาม ยังไม่เห็นด้วยกับแนวคิดการคุ้มครองแรงงานเสมือนลูกจ้างกิจการ รวมถึงการเสียภาษีรถรับจ้างประจำปีเช่นเดียวกับรถแท็กซี่ เนื่องจากผู้ขับขี่ ของอูเบอร์ส่วนใหญ่เป็นผู้ขับขี่อิสระ หรือพาร์ตไทม์ และอูเบอร์เป็นเพียง บริษัทเทคโนโลยีที่ช่วยจับคู่คนขับขี่และ ผู้ใช้บริการ แต่ยินดีหากมีการเสียค่า ธรรมเนียมอื่นๆ ตามที่รัฐบาลพิจารณา
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กรรมการบริษัท แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า แกร็บเห็นด้วยอย่างยิ่งและพร้อมร่วมปฏิบัติตามแนวทางศึกษาดังกล่าว เพื่อรองรับการเดินทางของคนไทย นักท่องเที่ยว นักธุรกิจ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวอาเซียนที่มีสัดส่วนใช้แกร็บ 10-20% จากยอดเดินทางมาไทย 8.9 ล้านคน โดยบริษัทได้ติดตราสัญลักษณ์อย่างชัดเจน มีบทลงโทษในการกำกับดูแลผู้ขับขี่ที่ส่วนใหญ่ได้มีการทำใบอนุญาตขับขี่รถสาธารณะรองรับไว้แล้ว
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาเปิดพื้นที่ให้บริการในเมืองท่องเที่ยวหลักและเมืองรองเพิ่มมากขึ้น จากปัจุบันมีพื้นที่ ให้บริการ 12 แห่งในไทย รวมถึงเตรียมเปิดให้บริการแกร็บเพย์ คาดว่าจะสามารถใช้งานได้ภายในไตรมาส 2 ปีนี้