สัปดาห์นี้เราจะเห็นข่าวที่มีคำว่า “แบงก์กิ้งเอเยนต์” กันได้บ่อยๆ แต่มันคืออะไร แล้วมันดียังไง ใครละที่ได้ประโยชน์ วันนี้เราหาคำตอบมาให้แล้วจ้า
เริ่มอุ่นเครื่องกันก่อนว่า แบงก์กิ้งเอเยนต์ คืออะไร?
คือตัวแทนของสถาบันทางการเงิน ในรูปของนิติบุคคล จะเป็น สถาบันการเงินของรัฐ ธนาคารพาณิชย์ หรือไปษณีย์ ผู้รับชำระบริการการเงินไทยก็ได้ ที่จะให้บริการ เบิก ฝาก ถอน โอน ชำระเงินรายการต่างๆ โดยเน้นไปที่ลูกค้ากลุ่มรายย่อย จำนวนเงินไม่สูงมากนัก อาจจะ 3,000-5,000 บาท
แล้วทำไมจะต้องมีสาขาตัวแทนละ.. ในเมื่อธนาคารก็มีสาขาอยู่แล้ว โมบายแบงก์กิ้งก็สะดวกนะ
แม้ปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีทางการเงินอย่าง อินเตอร์เน็ต แบงก์กิ้ง หรือ โมบาย แบงก์กิ้ง ที่อำนวยความสะดวกต่างๆ QR code ยิงปี๊บเดียวจบ! แต่ด้วยเทคโนโลยีต่างๆนั้นเหมาะกับคนรุ่นใหม่มากกว่า ชาวต่างจังหวัดหรือผู้ที่มีอายุยังถนัดกับการเดินไปธนาคาร และเบิกเงิน ถอนเงินมากกว่า ซึ่งในชุมชนชนบทต่างๆก็ยังยากที่จะเข้าถึงธนาคาร ต่างจากร้านสะดวกซื้อที่มีอยู่แทบจะทุกหัวมุมถนน
เข้าใจกันให้ชัดว่าไม่ใช่การจัดตั้งธนาคารใหม่ ธนาคารเซเว่น อะไรต่างๆ แต่เป็นการเพิ่มช่องทางการเงินให้กับผู้บริโภค เพราะสถาบันการเงินเองอาจจะมีสาขาที่ไม่เพียงพอต่อการเข้าถึง มีแหล่งเข้าถึงได้ง่ายกว่า สามากกว่า ทั้งยังลดค่าใช้จ่ายให้ผู้บริโภคมากขึ้น เน้นย้ำว่าไม่จำเป็นต้องเซเว่น อาจจะเป็นไปรษณีย์ไทย เป็นแฟมิลี่มาร์ท ลอวสัน ร้านค้าหรือร้านกาแฟอะไรก็ได้ ที่มีคุณสมบัติเพียงพอ
ลดรายจ่ายผู้บริโภคยังไง… เข้าถึงได้ง่ายขึ้นก็ค่าใช้จ่ายในการเดินทางลดลง ส่วนค่าธรรมเนียมต่างๆเมื่อธนาคารลดสาขาลง ต้นทุนลดลง ก็นำเงินส่วนนั้นมาจ่ายให้กับสาขาเอเย่นต์ ประชาชนอย่างเราได้ประโยชน์อันนี้เยี่ยม
มาดูข้อดีของมันเป็นข้อกันบ้าง 1.ลูกค้าจะเข้าถึงการให้บริการของธนาคารได้ง่ายขึ้นกว่าการไปสาขาธนาคาร (เปิด 24 ชม. 7 วัน) 2.ค่าใช้จ่ายของธนาคารในการเปิดสาขาลดลง(บริการดีขึ้น เข้าถึงมากขึ้น ค่าใช้จ่ายลดลง)
ส่วนมันจะน่ากลัวหรือไม่? ไม่น่ากังวล ด้วยตัวแทนที่ถูกแต่งตั้งนั้นจะมีความปลอดภัยเหมือนธนาคารนั้นๆเป็นผู้ดำเนินการเอง(ธนาคารดูแลความปลอดภัยทั้งหมด ในเรื่องความมั่นคง) และยังต้องขออนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยก่อนด้วย จึงค่อนข้างสบายใจได้ในความปลอดภัย
รวมไปถึงการลดสาขาของธนาคารพาณิชย์ ที่มีการลดจำนวนลง อย่างแบงก์สีม่วงจาก 1,213 สาขา เหลือ 1,122 สาขา(ลดลงไป 91 สาขาในปีที่ผ่านมา) แบงก์สีเขียวจาก 1,102 สาขา เหลือ 1,028 สาขา(ลดลง 74 สาขา)
กลับกันลองดูตัวอย่างร้านสะดวกซื้ออย่างเซเว่นกันบ้าง จำนวนสาขานั้นมีมากถึง 9,542 สาขา และจำนวนคนที่เดินเข้าเฉลี่ย 1,175 คน รวม 11,503,900 คนต่อวัน เท่ากับว่า คนไทย 16.92% เข้าเซเว่นคนละ 1 ครั้ง มันก็ วิน-วิน เพราะผู้บริโภคได้เข้าถึงง่ายขึ้น ธนาคารมีสาขาตัวแทนมากขึ้น ค่าใช้จ่ายลดลง และร้านสะดวกซื้อก็ได้บริการเพิ่ม
จะเป็นยังไงเดี๋ยวรอความชัดเจน แล้วเราจะมาสอดส่องกันอีกทีนะครับ วันนี้ถือเป็นการพรีวิวเบาๆกันก่อน
กมลธร โกมารทัต.
ขอบคุณข้อมูลจาก : คุณอิสระ วงศ์รุ่ง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มลูกค้าบุคคล