นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการทำงานและรับฟังปัญหา ของบริษัทรถไฟฟ้า รฟท. จำกัด (รฟฟท.) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิ้งค์ โดยเฉพาะปัญหาความแออัดในการใช้บริการรถไฟฟ้าช่วงชั่วโมงเร่งด่วน
โดยนายไพรินทร์ ได้มอบนโยบายให้ รฟฟท. ดำเนินการปรับเวลาการเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ ให้เร็วขึ้นครึ่งชั่วโมง จากเดิมที่เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 6.00 น. เป็น 5.30 น. เพื่อเพิ่มเวลาการเดินทาง โดยช่วงเวลา 30 นาทีนี้ จะสามารถเพิ่มเที่ยววิ่งรถไฟฟ้าได้อีก 3 เที่ยวรองรับผู้โดยสารได้เที่ยวละ 700 คน ทั้งนี้ รฟฟท.จะเร่งเสนอขออนุมัติการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ปรับเวลาเดินรถดังกล่าวคาดว่าจะเริ่มได้ภายในเดือน ก.พ. 61
ส่วนกรณีการจัดหาขบวนรถใหม่อีก 7 ขบวน ที่ยังติดปัญหาเรื่องข้อกฎหมายนั้น นายไพรินทร์ รับว่าจะต้องเร่งแก้ปัญหาดังกล่าว เพื่อให้การจัดหาแล้วเสร็จและนำรถมาให้บริการประชาชนให้ได้ภายใน 1-2 ปีจากนี้ โดยจะต้องหาข้อสรุปเรื่องดังกล่าวให้ได้ภายในไตรมาสแรกของปีหน้า โดยไม่ต้องรอความชัดเจนของโครงการ EEC พร้อมทั้งเร่งรัด รฟฟท. ให้ดำเนินการปรับเปลี่ยนตู้ขนถ่ายสัมภาระ ในขบวนแอร์พอร์ตเอ็กซ์เพรส ซึ่งมีจำนวน 4 ตู้ มาปรับเป็นตู้โดยสาร โดยใช้งบประมาณราว ๆ 100-200 ล้านบาท เมื่อแล้วเสร็จจะทำให้แอร์พอร์ตลิ้งค์ รองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นอีก 11,000 คนต่อวัน จากปัจจุบัน 72,000 คนต่อวัน เป็น 83,000 คนต่อวัน คาดว่าขบวนแรกที่ปรับปรุงแล้วเสร็จจะเริ่มเข้าระบบให้บริการภายในเดือน กันยายน 2561
สำหรับปัญหาด้านความปลอดภัย กรณีผู้โดยสารตกชานชาลา ได้มอบนโยบายให้ รฟฟท. ดำเนินการติดตั้งราวกั้น และเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการมอบนโยบายของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม มีกลุ่มสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟฟ้า เข้าเสนอขอให้รัฐบาลเร่งรัดการจัดซื้อขบวนรถไฟฟ้าเพิ่ม ก่อนเกิดวิกฤตการให้บริการในอนาคต
