นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองรอง โดยให้สามารถนำ ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการท่องเที่ยวเมืองรอง อาทิ ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าซื้อสินค้า โอท็อป เป็นต้น รวมกันแล้วไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท มาหักลดหย่อนภาษี ระยะเวลา 1 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค. 2561 โดยใช้ใบเสร็จรับเงินจากผู้ประกอบการที่ไปรับบริการ หรือซื้อสินค้าเป็นหลักฐานเท่านั้น โดยมาตรการดังกล่าวเชื่อว่าจะช่วยสนับสนุนให้ประชาชนที่อยู่ตามต่างจังหวัด โดยเฉพาะในเมืองรองมีรายได้เพิ่มขึ้น
สำหรับจังหวัดเมืองรองที่เข้าข่ายมาตรการภาษีดังกล่าวนั้น ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะเป็น ผู้กำหนดและประกาศ โดยอาจมีบางอำเภอที่เข้าข่ายแม้จะอยู่ในจังหวัดท่องเที่ยวหลักก็ตาม
“ยอมรับว่ามาตรการดังกล่าวจะทำให้กรมสรรพากรสูญเสียรายได้จากเม็ดเงินภาษีบ้างไม่ถึง 1 หมื่นล้านบาท แต่เมื่อพิจารณาในภาพรวมแล้วคุ้มค่า เพราะจะทำให้เกิดรายได้ที่กระจายไปทั่วประเทศ โดยเฉพาะในเมืองรอง ซึ่งรากหญ้า ก็จะได้ประโยชน์จากการมีรายได้เพิ่มขึ้น” นายประสงค์ กล่าว
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการมีบุตร โดยกำหนดให้ในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สามารถหักเพิ่มค่าลดหย่อนบุตรคนที่ 2 ที่เกิดตั้งแต่ปี 2561 เพิ่มได้อีก 3 หมื่นบาท รวมของเดิมที่สามารถหักลดหย่อนได้แบบเหมาของผู้เป็นพ่อและแม่คนละ 3 หมื่นบาท จะส่งผลให้สามารถหักลดหย่อนบุตรคนที่ 2 ได้เป็นเงิน 6 หมื่นบาท และหักลดหย่อนสำหรับรายจ่ายเป็นค่าฝากครรภ์และคลอดบุตรตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 6 หมื่นบาท/ปี สำหรับการจ่ายตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2561 เป็นต้นไป รวม 2 รายการ จะได้ลดหย่อนเพิ่มอีก 1.2 แสนบาท
สำหรับของขวัญปีใหม่ที่รัฐบาลจะมอบให้ประชาชนจะมีอีกหลายมาตรการ เช่น โครงการเน็ตประชารัฐที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมติดตั้งครบทั้ง 24,700 หมู่บ้าน ตามเป้าหมาย
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีหลายโครงการ เช่น โครงการกระทรวงวิทย์ชวนพิชิตอวกาศ โดยเปิดให้ประชาชนเข้าชม Space Inspirium ที่อุทยานรังสรรค์นวัตกรรมอวกาศ จ.ชลบุรี ได้ตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค. 2560-5 ม.ค. 2561
