นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการช่วยเหลือผู้ลงทะเบียนรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐระยะที่ 2 เข้าที่ ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 3 ม.ค. 2561 นี้ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับผู้มีรายได้น้อย โดยเป้าหมายของมาตรการเฟส 2 คือรัฐบาลต้องการให้ผู้มีรายได้น้อยที่มีรายได้ต่ำกว่า 3 หมื่นบาท/ปี ทั้งหมด 5.3 ล้านคน จากจำนวนผู้ลงทะเบียนบัตรคนจน 11.4 ล้านคน มีรายได้สูงกว่าเส้นแบ่งความยากจนและหลุดพ้นจากความยากจนให้ได้ภายในปี 2561
“เชื่อมั่นว่าในการเปิดให้ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยรอบต่อไปในปี 2562 จำนวนผู้มีรายได้น้อยจะลดลงอย่างมีนัย พร้อมยืนยันว่ามาตรการนี้ไม่ใช่มาตรการหาเสียง เพราะไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาลก็จะต้องทำออกมาในรูปแบบนี้” นายสมชัย กล่าว
ทั้งนี้ มาตรการบัตรผู้มีรายได้น้อยระยะที่ 2 เบื้องต้นคิดไว้ 4 มาตรการย่อย เพื่อเป็นสวัสดิการต่อยอดในการให้ความช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย เช่น มาตรการสร้างงาน สร้างอาชีพให้ผู้มีรายได้น้อยที่มาลงทะเบียน โดยกลุ่มเป้าหมายสำคัญ คือ ช่วงอายุ 18-60 ปี ให้มีรายได้เพิ่มขึ้นจะได้หลุดพ้นจากความยากจน เบื้องต้นได้ให้กระทรวงแรงงานไปสำรวจความต้องการในการใช้แรงงานในกลุ่มธุรกิจต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อนำความคืบหน้ามาหารือถึงแนวทางการดึงผู้มีรายได้น้อยเข้าสู่ตลาดแรงงานอย่างตรงจุด
อย่างไรก็ตาม จะเป็นการร่วมมือครั้งสำคัญของหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน และกระทรวงพาณิชย์ มาร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการ เพื่อช่วยให้ คนจนทั้งหมด 5.3 ล้านคน มีรายได้ มีการ ศึกษา องค์ความรู้ในการเลี้ยงชีพ โดยมาตรการจะมีทั้งในส่วนที่เป็นการสนับสนุนผู้ที่สนใจประกอบอาชีพ มีธุรกิจเป็นของตัวเอง การส่งเสริมให้เป็นลูกจ้าง สนับสนุนให้ไปทำงานในต่างประเทศ และช่วยเหลือให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง หรือมีภาระการผ่อนบ้านที่เพียงพอต่อการดำรงชีพ
นายสมชัย กล่าวว่า ปลัดทุกกระทรวงพร้อมที่จะร่วมมือ มั่นใจได้ว่าการทำมาตรการครั้งนี้จะมีประสิทธิภาพที่สุดเป็นครั้งประวัติศาสตร์ ที่สำคัญจะต้องมี ตัวชี้วัดผลของมาตรการที่จับต้องได้ เพื่อ ไม่ให้เป็นการช่วยแบบเหวี่ยงแห เพราะมาตรการเฟส 2 เป็นการลงพื้นที่ทำข้อมูล เชิงลึกเป็นรายบุคคลทั้ง 5.3 ล้านคน ช่วย ในการทำแผนที่ชีวิตแต่ละคนชัดเจน เป้าหมายคือจะต้องช่วยให้มีรายได้สูงกว่า 3 หมื่นบาท/ปี ทั้งหมด 100% ภายในปีหน้า
สำหรับความคืบหน้าการผลักดันมาตรการให้สังคมไทยเป็นสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ดูในภาพรวมขณะนี้เป็นที่น่าพอใจ ทั้งในส่วนของการผลักดันให้ใช้ระบบการชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ด ซึ่งประชาชนและสถาบันการเงินมีความตื่นตัวมากขึ้น รวมทั้งการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิต ซึ่งผู้ที่ ใช้บัตรคนจนสามารถร่วมชิงโชคได้ทุกเดือน ทำให้มีความคึกคัก คาดว่าประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมไร้เงินสดเต็มรูปแบบได้ภายใน 3-4 ปีนี้
