การรถไฟแห่งประเทศไทย ลงนามสัญญาก่อสร้าง โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน 5 เส้นทาง มูลค่าการก่อสร้างรวมกว่า 69,531 ล้านบาท พร้อมเร่งผู้รับจ้างดำเนินการก่อสร้างทันทีในไตรมาสแรกของปี61 เพื่อให้โครงการแล้วเสร็จตามแผนในปี 65
พิธีลงนามสัญญาก่อสร้าง โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน 5 เส้นทาง ระหว่าง การรถไฟแห่งประเทศไทย โดยนายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าการรถไฟฯ ร่วมลงนามในสัญญา กับ บริษัทผู้รับจ้างที่ผ่านการคัดเลือกด้านราคาทั้ง 9 สัญญา โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และ นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามในครั้งนี้
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า
นายอานนท์ฯ เปิดเผยว่า การลงนามในสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน (เฟสแรก) ในวันนี้เป็นการลงนามในการก่อสร้าง 5 เส้นทาง จานวน 9 สัญญา ประกอบด้วย ช่วงลพบุรี – ปากน้าโพ ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ ช่วงนครปฐม – หัวหิน ช่วงหัวหิน – ประจวบคีรีขันธ์ และ ช่วงประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร รวมระยะทาง 702 กิโลเมตร มูลค่าการก่อสร้างรวมกว่า 69,531 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดแต่ละสัญญาดังนี้
1. งานก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 136 กิโลเมตร แบ่งออกเป็น สัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา – คลองขนานจิต วงเงิน 7,560 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 48 เดือน และสัญญาที่ 3 งานอุโมงค์รถไฟ วงเงิน 9,290 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 42 เดือน โดยมีบริษัทอิตาเลี่ยนไทย ดีเวลลอปเมนต์ จากัด (มหาชน) และ กิจการร่วมค้า ไอทีดี-อาร์ที เป็นผู้รับจ้างสัญญางานก่อสร้าง
2. งานก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร ระยะทาง 168 กิโลเมตร แบ่งออกเป็น สัญญาที่ 1 ช่วงประจวบ – บางสะพานน้อย วงเงิน 6,465 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 33 เดือน และสัญญาที่ 2 ช่วงบางสะพานน้อย – ชุมพร 5,992 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน โดยมีกิจการร่วมค้า เคเอส – ซี และ กิจการร่วมค้า เอสทีทีพี เป็นผู้รับจ้างสัญญางานก่อสร้าง
3. งานก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม – หัวหิน ระยะทาง 169 กิโลเมตร แบ่งออกเป็น สัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม – หนองปลาไหล วงเงิน 8,198 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน และสัญญาที่ 2 ช่วงหนองปลาไหล – หัวหิน วงเงิน 7,520 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน โดยมีบริษัท เอ เอส แอสโซซิเอส เอนยิเนียริ่ง 1964 จากัด และ บริษัท ชิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จากัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้าง สัญญางานก่อสร้าง
4. งานก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี – ปากน้าโพ ระยะทาง 145 กิโลเมตร แบ่งออกเป็น สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านกลับ – โคกกระเทียม วงเงิน 10,050 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 48 เดือน และสัญญาที่ 2 ท่าแค – ปากน้าโพ วงเงิน 8,649 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน โดยมีกิจการร่วมค้า ยูเอ็น-เอสเอช และ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จากัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้างสัญญางานก่อสร้าง
5. งานก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงหัวหิน – ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กิโลเมตร วงเงิน 5,807 ล้านหบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 30 เดือน โดยมีบริษัท อิตาเลี่ยนไทย ดีเวลลอปเมนต์ จากัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้างสัญญา งานก่อสร้าง
ทั้งนี้ภายหลังจากการลงนามแล้ว ผู้รับจ้างเริ่มการก่อสร้างในช่วงไตรมาส 1 ปี 2561 ให้แล้วเสร็จตามแผนภายในปลายปี 2565 และเมื่อการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะเร่งด่วน 7 เส้นทางแล้วเสร็จ (รวมเส้นทาง ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย และ ชุมทางจิระ-ขอนแก่น ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) จะทำให้รถไฟมีระยะทางเพิ่มขึ้นอีก 995 กิโลเมตร หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.6 ของเส้นทางรถไฟทั้งประเทศ ช่วยลดเวลาการเดินทางได้ 30% รถไฟมีความตรงต่อเวลา ลดต้นทุนโลจิสติกส์ และประหยัดค่าเชื้อเพลิงการขนส่งในภาพรวมของประเทศ และจะเป็นการพลิกโฉมการขนส่งทางรถไฟอย่างชัดเจน