ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย ปรับกลยุทธ์รับนักท่องเที่ยวจีนกลุ่ม FIT ที่เติบโตต่อเนื่อง ค่าใช้จ่ายต่อหัวมากกว่ากรุ๊ปทัวร์ 10 ถึง 20%

นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือ ATTA พาทีมข่าวเดิมชมร้านขายปลีก เครื่องสำอางค์ และเวชสำอางค์ รวมถึงสินค้ายอดฮิตของชาวจีน ที่ต้องขนกลับบ้านเมื่อมาเที่ยวไทย อย่างยาหม่อง ยาสมุนไพรไทย ซึ่งนี่คือตัวอย่างกลยุทธ์ของผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่หันมาสร้างจุดดึงดูดรับ นักท่องเที่ยวกลุ่ม FIT หรือกลุ่มที่เที่ยวด้วยตัวเอง ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 60% ของนักท่องเที่ยวจีนทั้งหมดที่มาไทย ซึ่งปีที่แล้วมีมากถึงเกือบ 10 ล้านคน และในเดือนมกราคมปีนี้ ตลาดจีนเติบโตจากปลายปีที่แล้วถึง 64% จากภาวะเศรษฐกิจจีนที่ยังคงเติบโต ด้วยจำนวนประชากรจีนที่มีมากถึงกว่า 1,300 ล้านคน เที่ยวในประเทศแค่ 4,000 กว่าล้านครั้งต่อปี และมีคนจีนเดินทางเที่ยวต่างประเทศกว่า 100 ล้านคนต่อปี ขณะที่ไทยเป็นเป้าหมายอันดับต้นๆของชาวจีน สมาคมฯ จึงคาดหวังว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวจีนทะลุ 11 ล้านคน กลุ่ม FIT จีนที่มาไทย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มครอบครัวซึ่งมีหลากหลายเจนเนอเรชั่น และกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดย มีพฤติกรรมเที่ยวทุกตรอกซอกซอย เริ่มที่กรุงเทพมหานคร ต่อด้วยเมืองชายหาด อย่างพัทยา เกาะสมุย ภูเก็ต ที่น่าสังเกตคือการใช้จ่ายผ่านระบบออนไลน์ เช่น We Chat Pay และ Ali Pay (อาลี เปย์) ในทุกช่วงวัย ผู้ประกอบการไทยจึงต้องปรับตัว ในการติดตั้งระบบ และทำโปรโมชั่นผ่านออนไลน์ ซึ่งค่าใช้จ่ายต่อคนจะสูงกว่าแบบกรุ๊ปทัวร์ 10 ถึง 20% เพราะมักต้องการความสะดวกสบาย ประหยัดค่าเดินทางแต่เต็มที่กับค่าอาหารและซื้อสินค้า ขณะที่มัคคุเทศก์ ก็ต้องปรับตัวรับโอกาสที่จะเข้ามาด้วยเพราะแม้จะเป็น FIT แต่บางส่วนยังต้องใช้มัคคุเทศก์ แต่จะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวขนาดเล็ก ส่งผลรายได้มัคคุเทศก์เพิ่มขึ้น ขณะที่ความต้องการสูง พร้อมเสนอให้ภาครัฐ พัฒนาระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพฯและหัวเมืองท่องเที่ยว เพื่อรองรับ

Related Posts

Scroll to Top