บริษัทผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่น แชตชื่อดัง ไลน์ คอร์ปอเรชัน เปิดเผยว่า เตรียมขยายการให้บริการสู่ภาคการเงิน ซึ่งรวมถึงการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัล การปล่อยกู้ และการทำประกันบนแอพพลิเคชั่น โดยได้แตกบริษัทใหม่เป็น ไลน์ ไฟแนนเชียล คอร์ปอเรชัน เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา และได้ยื่นขอใบอนุญาตการเทรดเงินดิจิทัลกับสำนักงานกำกับดูแลภาคบริการทางการเงินของญี่ปุ่น (เอฟเอสเอ) เรียบร้อยแล้ว
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า ไลน์มีแผนจะขยายบริการซื้อขายเงินดิจิทัลไปยังฮ่องกงและลักเซมเบิร์กในอนาคต โดยจะเพิ่มการว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านฟินเทคและเทคโนโลยีบล็อกเชนจากทั่วโลก และกำลังพิจารณาผลักดันเทคโนโลยีบล็อกเชน ในประเทศที่ยังไม่มีโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีการเงินที่มากเพียงพอ เพื่อเปิดใช้บริการชำระเงิน เช่น ค่าน้ำค่าไฟ ผ่านโทรศัพท์มือถือได้
ทั้งนี้ ไลน์มีแผนจะลงทุนในเทคโนโลยีการเงิน (ฟินเทค) วงเงิน 3 หมื่นล้านเยน (ราว 8,700 ล้านบาท) ในปีนี้สำหรับแผนการดังกล่าวของไลน์ เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลด้านความปลอดภัยในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัล หลังเกิดกรณีการแฮ็กคอยน์เช็ก ผู้ให้บริการซื้อขายเงินดิจิทัลของญี่ปุ่น ส่งผลให้สูญเงินไปราว 5.8 หมื่นล้านเยน (ราว 1.6 หมื่นล้านบาท) และทำให้ทางการญี่ปุ่นต้องเร่งเข้ามาตรวจสอบเว็บซื้อขายเงินดิจิทัลทุกแห่ง
ด้านเฟซบุ๊ก สื่อสังคมออนไลน์ชื่อดัง ประกาศห้ามโฆษณาเกี่ยวกับเงินดิจิทัล ซึ่งรวมถึงบิตคอยน์ และการออกเหรียญเสนอขายครั้งแรก (ไอซีโอ) ด้วย เนื่องจากผลิตภัณฑ์และการให้การบริการทาง การเงินดังกล่าวมักจะเกี่ยวข้องกับการ หลอกลวง
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ ไทย (ตลท.) กล่าวว่า ที่ผ่านมากรณี ที่บริษัท เจ เวนเจอร์ส บริษัทย่อยของบริษัท เจมาร์ท (JMART) ซึ่งบริษัท จดทะเบียน (บจ.) ไทย จะระดมทุนใหม่เป็นเงินสกุลดิจิทัล (ไอซีโอ) ได้เข้ามาปรึกษากับ ตลท. แต่ที่ ตลท.อยากให้ JMART ชี้แจงในหนังสือชี้ชวนฉบับย่อ (ไวท์เปเปอร์) มีการแก้ไขในฉบับสุดท้ายซึ่งจะมีความชัดเจนสุด ขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยรายงานมาให้ทาง ตลท. เพราะเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสถานะและมูลค่าของ บจ. ซึ่งถือเป็นลักษณะการรายงานตามเกณฑ์การเปิดเผยข้อมูลปกติของ บจ.ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ
“มาตรการที่ ตลท.ให้ JMART ถือเป็นเกณฑ์ปกติที่ บจ.ทุกแห่งต้องรายงานอยู่แล้ว เพราะสิ่งที่ บจ.จะทำถ้ามีผลต่อฐานะ หรือมูลค่าเพิ่มของ บจ. ต้องมีการแจ้งให้ ตลท.รับทราบ ทั้งหมดนี้เพื่อให้นักลงทุนได้มีข้อมูลที่ชัดเจนและสามารถใช้ประกอบการตัดสินใจในการลงทุน” นางเกศรา กล่าว
