สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA ประกาศศักดาผู้นำการขับเคลื่อน Digital ID ของประเทศไทย ผนึกกำลังพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน จัดงาน “ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID” ภายใต้แนวคิด “จุดประกายความคิด ปลดล็อกอนาคต Digital ID” เพื่อเฟ้นหาสุดยอดโซลูชันและนวัตกรรมที่จะมายกระดับ Digital ID สำหรับนิติบุคคลและคนต่างด้าว พร้อมเชิญชวนเหล่าคนสายเทคที่มีไอเดียสร้างสรรค์ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนา Digital Ecosystem เพื่อการทำธุรกรรมออนไลน์ที่มั่นใจและปลอดภัยด้วย Digital ID ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มีนาคม 2568
ดร.ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการ ETDA กล่าวว่า “ETDA มุ่งมั่นผลักดัน Digital ID สู่การเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้กับทุกธุรกรรมออนไลน์ที่ทุกคนเข้าถึงได้” โดยที่ผ่านมา ETDA ได้ดำเนินการภายใต้กรอบการขับเคลื่อน Digital ID ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2565 – 2567) ซึ่งประสบความสำเร็จในการสร้างรากฐานสำคัญหลายด้าน อาทิ การเพิ่มจำนวนผู้ใช้งาน Digital ID ผ่านบริการ ThaID ของกรมการปกครอง และการพัฒนาระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าทางดิจิทัล (Face Verification Service: FVS) 1 ที่ช่วยยกระดับความปลอดภัยของการยืนยันตัวตนผ่านข้อมูลชีวมิติ
เพื่อต่อยอดความสำเร็จดังกล่าว ETDA จึงได้วางกรอบแนวคิด Digital ID ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2568 – 2570) โดยมุ่งเน้นให้ Digital ID เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สะดวก ปลอดภัย ไร้รอยต่อ และครอบคลุมทุกภาคส่วน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ผ่าน 6 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่
- การอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงบริการภาครัฐผ่าน Digital ID: ตั้งเป้าให้ประชาชนสามารถใช้ Digital ID เข้าถึงบริการ e-Service ได้ไม่น้อยกว่า 1,000 บริการภายในปี พ.ศ. 2570
- การสร้างความน่าเชื่อถือของ Digital ID: เพื่อลดปัญหาการปลอมแปลงและฉ้อโกงในแพลตฟอร์มออนไลน์และธุรกรรมทางการเงิน
- การสนับสนุนการทำธุรกรรมของนิติบุคคลด้วย Digital ID: พัฒนาโซลูชันที่ตอบโจทย์การทำธุรกรรมของภาคธุรกิจ
- การพัฒนากลไก Data Sharing: เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างภาคธุรกิจและหน่วยงานภาครัฐ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ
- การวางโครงสร้างพื้นฐานให้คนต่างด้าวสามารถใช้ Digital ID ได้อย่างมีประสิทธิภาพ: เพื่อให้คนต่างด้าวสามารถเข้าถึงบริการดิจิทัลได้อย่างสะดวกและปลอดภัย
- การสร้างกลไกติดตามและประเมินความเสี่ยงของผู้ให้บริการ Digital ID: เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งาน
ETDA คาดหวังว่า Digital ID จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการลดปัญหาการปลอมแปลงและการฉ้อโกงในโลกออนไลน์ รวมถึงได้รับการยอมรับและใช้งานอย่างแพร่หลายในภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะ Document Wallet ที่จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญของการทำธุรกรรมในอนาคต
การขับเคลื่อน Digital ID ในครั้งนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยี แต่เป็นรากฐานสำคัญที่จะช่วยให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างเต็มรูปแบบ โดยงาน “ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID” จะเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้คนไทยได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์อนาคตของ Digital ID และขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ยุคดิจิทัลอย่างยั่งยืน
