ทะยานสู่ Medical Hub! โรช ไดแอกโนสติกส์ จับมือสภาเทคนิคการแพทย์ เสริมแกร่งห้องแล็บไทย ตั้งเป้า 150 แห่งเข้าร่วมโครงการ Lab Benchmarking 2025 พร้อมดันมาตรฐานสากล เพิ่มห้องแล็บรับรอง 20% ภายในปี 68
บริษัท โรช ไดแอกโนสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับสภาเทคนิคการแพทย์ เดินหน้าโครงการ “Lab Benchmarking 2025” โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อยกระดับมาตรฐานและคุณภาพของห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ (ห้องแล็บ) ทั่วประเทศให้เทียบเท่าระดับสากล โดยตั้งเป้าหมายให้มีห้องแล็บเข้าร่วมโครงการถึง 150 แห่ง และเพิ่มจำนวนห้องแล็บที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากลให้ได้ 20% ภายในปี 2568 ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลที่ต้องการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และ Wellness ในภูมิภาคเอเชีย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้บริการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
ลงนาม MOU เสริมแกร่งข้อมูลเชิงลึกห้องแล็บไทย
ทนพ.สมชัย เจิดเสริมอนันต์ นายกสภาเทคนิคการแพทย์ และนายมิไฮ อิริเมสซู กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรช ไดแอกโนสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อส่งเสริมการทำข้อมูลเชิงลึกของห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ในประเทศไทยภายใต้โครงการ Lab Benchmarking 2025 โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการรวบรวมข้อมูลการดำเนินงานของห้องแล็บทั่วประเทศ เปรียบเทียบกับมาตรฐานสากลในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อนำไปสู่การพัฒนาและยกระดับคุณภาพกระบวนการตรวจวินิจฉัย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแม่นยำและความน่าเชื่อถือของผลการตรวจ อันเป็นปัจจัยสำคัญต่อการวินิจฉัยโรคและการรักษาที่มีประสิทธิภาพ
ข้อมูลเชิงลึกสู่การยกระดับมาตรฐานห้องแล็บไทย
ทนพ.สมชัย เจิดเสริมอนันต์ นายกสภาเทคนิคการแพทย์ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีห้องแล็บที่ผ่านการรับรองมาตรฐานรวมกว่า 1,300 แห่ง โดยแบ่งเป็นห้องแล็บที่ได้รับการรับรองมาตรฐานของสภาเทคนิคการแพทย์จำนวน 814 แห่ง ห้องแล็บที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กว่า 300 แห่ง และห้องแล็บที่ได้รับการรับรองมาตรฐานกระทรวงของไทยอีกประมาณ 200 แห่ง การสำรวจจัดเก็บข้อมูลครั้งนี้จะทำให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันเกี่ยวกับการจัดการมาตรฐานห้องแล็บ ทำให้ทราบถึงจุดยืนของห้องแล็บตนเองเมื่อเทียบกับห้องแล็บในกลุ่มเดียวกัน เพื่อนำข้อมูลที่เป็นแนวบริหารจัดการที่ดีมาประยุกต์ใช้และพัฒนาห้องแล็บ เพื่อยกระดับบริการให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล และเพิ่มขีดความสามารถในการบริการทางการแพทย์ให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการเตรียมความพร้อมในการรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วในประเทศไทย
“ในยุคที่การตรวจวินิจฉัยโรคและการให้บริการสาธารณสุขมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน ผมอยากเชิญชวนให้ห้องแล็บทั่วประเทศที่เป็นสมาชิกของสภาเทคนิคการแพทย์ร่วมวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับศักยภาพของห้องแล็บ ในโครงการ Lab Benchmarking 2025 ครั้งนี้ โดยกระบวนการประเมินนี้จะช่วยให้ห้องแล็บสามารถระบุจุดแข็งและจุดที่ต้องปรับปรุงเพิ่มเติมได้อย่างเป็นระบบ การนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการตรวจวินิจฉัยจะช่วยส่งเสริมความแม่นยำและความน่าเชื่อถือของผลการตรวจ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการวินิจฉัยโรคและการรักษาที่มีประสิทธิภาพ” ทนพ.สมชัย กล่าว
โรช มุ่งมั่นหนุนระบบสาธารณสุขไทยสู่สากล
มิไฮ อิริเมสซู กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรช ไดแอกโนสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมการพัฒนาระบบสาธารณสุขของไทยว่า โครงการ Lab Benchmarking 2025 จะทำให้ห้องแล็บทั่วประเทศได้เรียนรู้และปรับปรุงการดำเนินงานโดยใช้เทคโนโลยีและความรู้ที่ทันสมัย ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการรับมือกับความท้าทายด้านสุขภาพในอนาคต พร้อมทั้งผลักดันให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทยเติบโตอย่างยั่งยืน ความรู้ที่ได้รับจะทำให้บุคลากรในห้องแล็บมีทักษะที่สามารถแข่งขันในระดับสากลและสามารถถ่ายทอดความรู้ไปยังเพื่อนร่วมงานในเครือข่ายของตนได้
“ความท้าทายสำคัญที่สุดสำหรับห้องแล็บในประเทศไทยในปัจจุบัน เป็นเรื่องของความสามารถในการก้าวตามเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และการสร้างทีมบุคลากรที่มีศักยภาพ เพื่อให้สามารถรักษามาตรฐานระดับสูงไว้ได้แม้ในขณะที่ปริมาณการทดสอบเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความสำเร็จของโครงการ Lab Benchmarking 2025 จะไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบสาธารณสุข แต่ยังสนับสนุนนโยบาย Medical Hub ของประเทศ ทำให้การให้บริการทางการแพทย์มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ประเทศสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและผู้ที่มองหาบริการทางการแพทย์ที่มีมาตรฐานระดับโลกได้มากขึ้น การพัฒนาศักยภาพเหล่านี้ถือเป็นการกระจายความรู้และเทคโนโลยีสู่ทุกภูมิภาค เพื่อนำไปสู่การลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการสุขภาพและเสริมสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจในภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง” มิไฮ กล่าวเพิ่มเติม
Lab Benchmarking ทุกสองปีสู่การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
โรชดำเนินการรวบรวมข้อมูล Lab Benchmarking ทุกสองปี โดยให้ตัวแทนจากห้องแล็บเข้าร่วมตอบแบบสอบถามออนไลน์ที่ครอบคลุมประเด็นสำคัญ อาทิ งานคุณภาพ การบริหารจัดการ ต้นทุน และการใช้นวัตกรรม จากนั้นห้องแล็บที่ร่วมตอบแบบสอบถามจะได้รับผลลัพธ์เปรียบเทียบกับห้องแล็บในกลุ่มเดียวกันแบบเรียลไทม์
สำหรับปีนี้ โครงการเปิดรับสมัครห้องแล็บจากทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึง 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 และจะเปิดเผยผลวิเคราะห์ข้อมูลประมาณไตรมาส 3 ของปีนี้ โดยมีเป้าหมาย 150 แล็บทั่วไทยเข้าร่วมโครงการ และคาดหวังเพิ่มจำนวนห้องแล็บที่ผ่านการรับรองมาตรฐานให้สูงขึ้น 20% ภายในปี 2568
ทนพ.สมชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายใต้ข้อตกลงนี้ สภาเทคนิคการแพทย์และบริษัท โรช ไดแอกโนสติกส์ (ประเทศไทย) จะทำงานร่วมกันเพื่อให้มั่นใจว่าจะใช้ข้อมูลไปเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาคุณภาพบริการของห้องปฏิบัติการ และจะนำเสนอผลการวิเคราะห์ผลสำรวจในงานมหกรรมคุณภาพห้องปฏิบัติการ (Thailand LA Forum 2025) และเผยแพร่ในวารสารการแพทย์ ทั้งนี้ ตัวแทนห้องแล็บสามารถร่วมให้ข้อมูลผ่านช่องทางออนไลน์ที่ Lab Insights
มิไฮ กล่าวทิ้งท้ายว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์ของประเทศไทยที่เป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางการแพทย์และ Wellness สำคัญของภูมิภาค ที่มีมาตรฐานระดับสากล อีกทั้งยังส่งเสริมการสร้างสังคมที่ทุกคนเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพได้อย่างเท่าเทียมและยั่งยืนในอนาคต