นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะ รัฐมนตรี (ครม.) นอกสถานที่อย่างเป็นทางการ หรือ ครม.สัญจร ที่ จ.สุโขทัย เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2560 ได้เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อ สนับสนุนการท่องเที่ยวและจัดอบรมสัมมนาในจังหวัดท่องเที่ยวรอง ทั้งส่วนของนิติบุคคลและบุคคลธรรมดาที่สามารถนำรายจ่ายจากการท่องเที่ยวมาหักลดหย่อนภาษีได้ตลอดปี ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค. 2561 แม้ทำให้รัฐสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษีประมาณ 200 ล้านบาท แต่ส่งผลดีช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม.ยังได้อนุมัติมาตรการของขวัญปีใหม่จากสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ประกอบด้วย 1.โครงการเพื่อส่งเสริมวินัยทางการเงินให้แก่ประชาชน ได้แก่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ให้เงินคืนสำหรับลูกค้ารายย่อยที่ผ่อน สินเชื่อมา 48 เดือน และไม่เคยเป็นเอ็นพีแอล โดยมีวงเงินกู้ทุก บัญชีรวมกันไม่เกิน 1 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ได้ประโยชน์ 165,107 คน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) คืนเงินดอกเบี้ยให้ลูกค้า 30% ของดอกเบี้ยทั้งหมดที่จ่ายในปี 2561 สำหรับลูกค้าเงินกู้ไม่เกิน 3 แสนบาท คาดว่าจะมีผู้ได้รับประโยชน์ 2.3 ล้านบาท
2.โครงการสนับสนุนให้ประชาชนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและผู้มีรายได้น้อยมีที่อยู่อาศัยของตัวเอง โดย ธอส.จะให้สินเชื่อต่อรายไม่เกิน 2 ล้านบาท โดยผู้ที่กู้ไม่เกิน 1 ล้านบาท ดอกเบี้ยคงที่ 4 ปีแรกที่ 2.75% ส่วนเกิน 1 ล้านบาท คงที่ 3% ใน 4 ปีแรก วงเงินรวมโครงการนี้ 3 หมื่นล้านบาท
พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มาตรการของกระทรวงอื่นๆ นั้น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จะเพิ่มเงินสนับสนุนเด็กแรกเกิดจาก 400 บาท เป็น 600 บาท ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขจะพัฒนาระบบบบริการผ่าตัดวันเดียวกลับ จัดทำแอพพลิเคชั่นให้ความรู้เรื่องยาและสมุนไพร
ด้านกระทรวงยุติธรรมออกมาตรการลดภาระรายจ่ายช่วยเหลือประชาชนให้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ลดราคาสินค้าของกรม ราชทัณฑ์ กรมพินิจและคุ้มครองเด็ก การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในชั้นการบังคับคดี การตรวจพิสูจน์โดยสถาบันนิติวิทยาศาสตร์โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ส่งมอบโครงการชลประทานขนาดเล็กส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ โครงการโคบาลบูรพา แจกปัจจัยการผลิต เพิ่มพลังปีใหม่ซื้อสินค้าเกษตร ตลาดเกษตรกร ตลาดนัดชาวดอย