นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม โดยระบุว่า ในช่วง 1 ปีของรัฐบาลชุดนี้ ขอให้กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สร้างฐานการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี ให้พร้อมเพื่อให้รัฐบาลใหม่สามารถเข้ามาสานต่อในการผลักดันนโยบาย 4.0 ได้ / ส่วนการช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่ประสบปัญหาความผันผวนของค่าเงิน ได้สั่งการให้ธนาคารกรุงไทย , ธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ เอสเอ็มอีแบงก์ และสมาคมธนาคารไทย ขอความร่วมมือจากสมาชิกช่วยเหลือประชาสัมพันธ์แนะนำให้เอสเอ็มอีทำประกันความเสี่ยงค่าเงินให้มากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน
ส่วนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากที่กระทรวงอุตสาหกรรมดำเนินการผ่านโครงการพัฒนาหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ หรือ CIV ได้ให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทุกจังหวัดจัดทีมเข้ามาช่วยระดมสมองว่า CIV แต่ละแห่งควรจะมีอะไรบ้าง เพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยว ทั้งนี้มีแผนพัฒนาหมู่บ้านให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวครบทุกจังหวัดในปี 2562 และสร้างรายได้เพิ่มให้แก่ชุมชน 2,892 ล้านบาท
ขณะที่นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า รองนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำการยกระดับเครือข่ายศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่อนาคต หรือ ไอซีที ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ โดยคาดว่าภายในไตรมาส 3 ของปีนี้จะแล้วเสร็จทั้ง 12 แห่ง และจะครอบคลุมทั่วประเทศใน 22 แห่ง ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งจะเป็นเครือข่ายสำคัญในการช่วยเหลือเอสเอ็มอีให้เข้าถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่ / ส่วนโครงการ Big Brothers หรือ พี่ช่วยน้อง มีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบการรายใหม่เข้าร่วมโครงการแล้ว 350 ราย โดยมีบริษัทขนาดใหญ่มาช่วยเป็นพี่เลี้ยงในโครงการนี้ 80 ราย นอกจากนี้เตรียมนำมาตรการพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพของไทย ในพื้นที่ 3 เป้าหมาย คือ ภาคเหนือตอนล่าง , ภาคอีสาน และภาคกลาง รวมทั้งมาตรการพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร เข้าสู่ที่ประชุม ครม. ภายในปีนี้ ซึ่งจะเป็นการขับเคลื่อน s-curve เพิ่มเติม จากเป้าหมายใน 10 อุตสาหกรรม อย่างไรก็ตามรองนายกรัฐมนตรีจะติดตามความคืบหน้าผลการดำเนินงานในอีก 3 เดือนข้างหน้า
