แอปเปิล “Apple” กำลังถูกฟ้องร้องโดยเหยื่อผู้ถูกละเมิดทางเพศในวัยเด็ก เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามแผนการตรวจสอบหาเนื้อหาการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก (CSAM) ในบริการ iCloud ในปี 2564 แอปเปิลประกาศว่ากำลังพัฒนาเครื่องมือตรวจจับ CSAM ที่จะทำการแจ้งเตือนภาพที่แสดงถึงการล่วงละเมิดดังกล่าว และรายงานไปยังศูนย์ข้อมูลเด็กสูญหายและถูกแสวงประโยชน์แห่งชาติ (National Center for Missing and Exploited Children) แต่บริษัทกลับถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับนัยยะด้านความเป็นส่วนตัวของเทคโนโลยีนี้ จนสุดท้ายต้องล้มเลิกแผนการไป
คดีความนี้ ซึ่งยื่นฟ้องเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาในแคลิฟอร์เนียตอนเหนือ เรียกร้องค่าเสียหายกว่า 1.2 พันล้านดอลลาร์สำหรับกลุ่มเหยื่อ 2,680 ราย โดยอ้างว่าหลังจากที่แอปเปิลเปิดตัวเครื่องมือเพื่อความปลอดภัยของเด็ก บริษัทกลับ “ไม่นำการออกแบบเหล่านั้นมาใช้ หรือใช้มาตรการใดๆ เพื่อตรวจจับและจำกัด” CSAM บนอุปกรณ์ของตน ซึ่งนำไปสู่ความเสียหายของเหยื่อ เนื่องจากภาพเหล่านั้นยังคงแพร่ระบาดต่อไป
เฟร็ด เซนซ์ โฆษกของแอปเปิล กล่าวในแถลงการณ์ว่า “เนื้อหาการล่วงละเมิดทางเพศเด็กเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ และเรามุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับวิธีที่ผู้ล่าทำให้เด็กตกอยู่ในความเสี่ยง เรากำลังเร่งพัฒนานวัตกรรมเพื่อต่อสู้กับอาชญากรรมเหล่านี้โดยไม่ลดทอนความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ของเรา ตัวอย่างเช่น คุณสมบัติต่างๆ เช่น Communication Safety เตือนเด็กๆ เมื่อพวกเขาได้รับหรือพยายามส่งเนื้อหาที่มีภาพเปลือย เพื่อช่วยตัดวงจรการบีบบังคับที่นำไปสู่การล่วงละเมิดทางเพศเด็ก เรายังคงมุ่งเน้นไปที่การสร้างการป้องกันที่ช่วยป้องกันการแพร่กระจายของ CSAM ก่อนที่มันจะเริ่มต้น”
คดีความนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่เดือนหลังจากที่แอปเปิลถูกกล่าวหาว่ารายงาน CSAM ต่ำกว่าความเป็นจริงโดยสมาคมแห่งชาติเพื่อการป้องกันการทารุณกรรมเด็ก (NSPCC) ของสหราชอาณาจักร
ผลกระทบจากการละเลยของ Apple
การที่แอปเปิลไม่นำเครื่องมือตรวจจับ CSAM มาใช้ ส่งผลกระทบในวงกว้าง ทั้งต่อตัวเหยื่อเอง สังคม และภาพลักษณ์ของบริษัท
- เหยื่อ: เหยื่อผู้ถูกละเมิดทางเพศในวัยเด็กต้องเผชิญกับความเจ็บปวดทางจิตใจ และบาดแผลทางอารมณ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อภาพและวิดีโอที่บันทึกการล่วงละเมิดยังคงแพร่ระบาดในโลกออนไลน์ พวกเขาต้องใช้ชีวิตอยู่กับความหวาดกลัว และรู้สึกไม่ปลอดภัย เนื่องจากไม่มีหลักประกันว่าเนื้อหาเหล่านั้นจะถูกลบออกไปอย่างถาวร
- สังคม: การแพร่ระบาดของ CSAM เป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อเด็ก และส่งผลเสียต่อสุขภาวะของสังคมโดยรวม เนื้อหาเหล่านี้กระตุ้นให้เกิดการล่วงละเมิดทางเพศ และทำให้เกิดวงจรการแสวงหาประโยชน์จากเด็ก ยิ่งเนื้อหาเหล่านี้แพร่หลายมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสที่เด็กจะตกเป็นเหยื่อมากขึ้นเท่านั้น
- แอปเปิล: การถูกฟ้องร้องในครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของแอปเปิลในฐานะบริษัทที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยของผู้ใช้ แม้แอปเปิลจะออกมาชี้แจง แต่ก็ไม่อาจลบล้างความกังวลของสาธารณชนที่ว่า บริษัทกำลังปกป้องผลประโยชน์ของตัวเองมากกว่าที่จะปกป้องเด็ก
บทบาทของเทคโนโลยีในการต่อสู้กับ CSAM
เทคโนโลยี มีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับ CSAM เครื่องมือตรวจจับ เช่น PhotoDNA ที่ใช้โดย Meta, Snapchat และ Google สามารถช่วยระบุเนื้อหาที่ผิดกฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนำไปสู่การลบเนื้อหา และดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด อย่างไรก็ตาม การใช้เทคโนโลยีต้องคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ด้วย และต้องมีมาตรการป้องกันที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิ
การป้องกัน CSAM เป็นความท้าทายที่ซับซ้อน ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม การให้ความรู้แก่เด็ก และผู้ปกครอง เกี่ยวกับภัยออนไลน์ และการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์ เป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้ การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และการลงโทษผู้กระทำความผิดอย่างรุนแรง ก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน
แอปเปิล จำเป็นต้องแสดงความมุ่งมั่นในการต่อสู้กับ CSAM อย่างจริงจัง และชัดเจน บริษัทควรพัฒนา และนำเครื่องมือตรวจจับ CSAM มาใช้ โดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ และร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกัน และแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก แอปเปิล มีโอกาสที่จะเป็นผู้นำในการสร้างมาตรฐานความปลอดภัย และปกป้องเด็กในโลกออนไลน์ แต่บริษัทต้องเลือกที่จะทำ และลงมือทำอย่างจริงจัง
Child Sexual Abuse Material หรือ CSAM คือ เนื้อหาการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก โดยมีคำจำกัดความทางกฎหมายที่แตกต่างกันไปทั่วโลก สำหรับคำจำกัดความมาตรฐานที่ใช้นิยาม CSAM ว่าเป็น “ภาพหรือวิดีโอที่แสดงบุคคลที่เป็นเด็กและมีส่วนร่วมหรือถูกพรรณนาว่ามีส่วนร่วมในกิจกรรมทางเพศที่ชัดเจน”
#แอปเปิล #CSAM #ความปลอดภัยของเด็ก #ภัยออนไลน์ #เทคโนโลยี #ความเป็นส่วนตัว #การล่วงละเมิดทางเพศเด็ก #iCloud
ที่มา engadget.com , techcrunch.com , inhope.org
–AI ครองโลก อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ปี 2025 อัจฉริยะยิ่งกว่าเดิม