ทองคำ นอกจากความสวยงามแล้ว ยังมีคุณค่าทางสังคม และมูลค่าสูงทางการเงินสูง หรือที่หลายคนชอบเรียกเท่ๆว่า “สินทรัพย์ปลอดภัย”
ปลอดภัยอย่างไร… ถ้านิยามตามธนาคารแห่งประเทศไทย คือ “เมื่อเศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโตชะลอลง ราคาทองคำกลับจะมีทิศทางเพิ่มขึ้น เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่รักษามูลค่า และไม่เสื่อมสภาพ นักลงทุนจึงมองทองคำเสมือนเป็นหลักประกันในช่วงที่สินทรัพย์อื่นเผชิญความเสี่ยงสูงหรือมีแนวโน้มด้อยค่าลงในช่วงเศรษฐกิจขาลง”
แปลง่ายๆ ก็ ราคาไม่ลงเหมือนสินทรัพย์อื่น โดยเฉพาะในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ทำให้นักลงทุนยิ่งต้องการมากขึ้น

แต่เมื่อใดที่สินค้าเป็นที่ต้องการของตลอด ก็ย่อมมีกลุ่มมิจฉาชีพตามมาด้วยเป็นธรรมดาของโลก เหมือนกับกรณีล่าสุด ที่พบทองคำปลอม เอาทองแดง ตะกั่วมายัดไส้ แล้วนำมาหลอกขายเป็นทองคำแท้
ซึ่งการตรวจสอบทองคำปลอมยัดไส้แบบนี้ จะยากมากๆ เพราะไม่สามารถดูได้จากตาเปล่า ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญมาพิสูจน์
ส่วนวิธีการ จะต้องซื้อทองคำอย่างไรให้มั่นใจ ว่าได้ทองแท้ ขอแยกเป็น 2 กรณี หากเป็นทองคำแท่ง ให้สังเกตที่สัญลักษณ์ที่ประทับอยู่บนตัวทองคำ ของร้านไหน เชื่อถือได้หรือไม่ และน้ำหนักทองตรงกับป้ายที่ระบุ

อีกรูปแบบหนึ่งที่ประชาชนคนทั่วไปอย่างเราๆ จะได้ซื้อกันมากกว่า นั่นคือ ทองคำรูปพรรณ วิธีการพิสูจน์ก่อนเลือกซื้อ มี 3 ขั้นตอน ได้แก่…
- สำรวจ จับเนื้อทองเบื้องต้น ไม่บิดเบี้ยว ลักษณะเข้ามือ สีทองคำไม่ผิดแปลก
- ส่อง ทองทุกร้านจะมีการประทับชื่อร้าน เปอร์เซ็นต์ทอง และตราสัญลักษณ์ของร้านนั้นไว้ที่ตัวผลิตภัณฑ์ หากไม่มี ไม่ชัด ไม่ใช่แล้ว
- ส่ง ส่งให้ร้านค้าชั่งน้ำหนักก่อน ว่าน้ำหนักตรงกันกับที่ระบุหรือไม่ ถ้าผิดแปลก็ต้องนำไปเผาไฟพิสูจน์ว่า ปลอม ผสม หรือมีอะไรผิดพลาด
แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทีมงาน Biztalk อยากแนะนำคือ ทองคำมีมูลค่าสูง ควรเลือกเจ้าที่น่าเชื่อถือ มีหน้าร้าน ไปจับไปดูก่อนจ่ายเงิน และนำใบเสร็จรับรองน้ำหนักทองคำกลับมาด้วย กันปัญหาในอนาคต
อีกอย่างที่อย่าพลาด คือ หากร้านใดที่ราคาทองถูกกว่าตลาดมากๆให้ เอ๊ะ! ไว้ก่อน เพราะราคาทองถูกกำหนดโดยตลาดโลกเป็นมาตรฐาน การจะถูกกว่าร้านอื่นนั้น อย่าว่าแต่หลักพันบาท แค่ถูกกว่า 100-200 นายกสมาคมก็บอกว่าเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว